ประกาศเรื่อง แจ้งการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการจัดการของกองทุนเปิดพรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์

ประกาศเรื่อง แจ้งการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการจัดการของกองทุนเปิดพรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์

บลจ.พรินซิเพิล จำกัด แจ้งการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการจัดการของ กองทุนเปิดพรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์ (PRINCIPAL SIF) โดยกองทุนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) แล้ว โดยสรุปสาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมได้ดังนี้

1. แก้ไขเพิ่มเติมโดยเปลี่ยนเป็นกองที่มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุน (Multiclass Fund) และเพิ่มชนิดหน่วยลงทุน (Class of Unit) โดยผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนอยู่ในปัจจุบันจะถือเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนชนิดสะสมมูลค่า(Class A : PRINCIPAL SIF-A) โดยอัตโนมัติ

2. ปรับความถึ่ในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจากรายเดือนเป็นรายสัปดาห์

ปัจจุบัน ปรับเป็น
ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำรายการได้ตั้งแต่เวลาเริ่มทำการถึงเวลา 15.00 น. ทุกวันทำการแรกของสัปดาห์ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำรายการได้ตั้งแต่เวลาเริ่มทำการถึงเวลา 15.00 น.

3. ปรับข้อความสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาทำการขายหน่วยลงทุน การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน

ปัจจุบัน ปรับเป็น
บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระยะ เวลาทำการขายหน่วยลงทุน การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเพื่อความเหมาะสม โดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนและกองทุนรวมโดยบริษัทจัดการจะติดประกาศรายละเอียดการให้บริการดังกล่าวล่วงหน้า 30 วัน ก่อนวันเปลี่ยนแปลง ที่ที่ทำการทุกแห่งของบริษัทจัดการและ ณ สถานที่ติดต่อของผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนที่ใช้ในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระยะ เวลาทำการขายหน่วยลงทุน การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนและกองทุนรวม โดยบริษัทจัดการจะติดประกาศรายละเอียดการให้บริการดังกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน ก่อนวันเปลี่ยนแปลง ที่ทำการทุกแห่งของบริษัทจัดการและ ณ สถานที่ติดต่อของผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และ/หรือเว็ปไซต์ของบริษัทจัดการ

4. แก้ไขเกี่ยวกับเงื่อนไขการออกและส่งมอบเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน โดยตัดเงื่อนไขการจัดส่งเอกสาร แสดงสิทธิทางไปรษณีย์ออก เพื่อรองรับการจัดส่งเอกสารผ่านช่องทาง online ในอนาคตและสอดคล้องกับยุคสมัยและสถานการณ์ปัจจุบัน

5. แก้ไขเพื่อปรับรูปแบบเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลในโครงการหรือหนังสือชี้ชวนของกองทุน โดยเป็นไปตามหนังสือเวียนจากสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ นจ.(ว) 5/2564  เรื่อง นำส่งภาพถ่ายประกาศและซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลในโครงการจัดการกองทุนรวม ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

6. ปรับ Benchmark ของกองทุนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทุน

ปัจจุบัน ปรับเป็น
1) ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีพันธบัตรรัฐบาลของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยที่มีอายุคงเหลือตั้งแต่ 1 ถึง 3 ปี ในอัตราส่วนร้อยละ 30  1) ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีพันธบัตรรัฐบาลของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยที่มีอายุคงเหลือตั้งแต่ 1 ถึง 3 ปี ในอัตราส่วนร้อยละ 25 
2) ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชน Mark-to-Market ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ A- ขึ้นไป อายุ 1 ถึง 3 ปี ในอัตราส่วนร้อยละ 30 2) ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชน Mark-to-Market ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ A- ขึ้นไป อายุ 1 ถึง 3 ปี ในอัตราส่วนร้อยละ 25
3) ผลตอบแทนรวมของดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REIT) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนร้อยละ 20 3) ผลตอบแทนรวมของดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REIT) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนร้อยละ 25
4) ผลตอบแทนรวม ของ FTSE Straits Times Real Estate Investment Trust Index (FSTREI) ในสกุลเงิน SGD (ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่ลงทุน ประมาณร้อยละ 50 และปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ประมาณร้อยละ 50) ในอัตราส่วนร้อยละ 20 4) ผลตอบแทนรวม ของ FTSE Straits Times Real Estate Investment Trust Index (FSTREI) ในสกุลเงิน SGD (ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่ลงทุน ประมาณร้อยละ 85 และปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ประมาณร้อยละ 15) ในอัตราส่วนร้อยละ 25

ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมตามข้อ 1 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สำหรับประเด็นอื่นๆ ตามข้อ 2 - ข้อ 6 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2564 ตามวันที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างไรก็ตามประเด็นตามข้อ 2 และ ข้อ 6 บริษัทจัดการจะมีประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้งก่อนวันที่มีผลบังคับใช้จริง

อ่านประกาศที่นี่

Title alignment
CENTER