CIO’s View: October 2022 - การเมืองโลก – ความท้าทายการลงทุนช่วงสิ้นปี

Knowledge Centre Illustration

มุมมองการลงทุนเดือนนี้เริ่มจากการติดตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองสำคัญทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาซึ่งล้วนแต่ได้สร้างผลกระทบต่อตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคมคอมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ที่ผ่านมาซึ่งนายสี จิ้นผิงได้เข้ารับมอบตำแหน่งประธานาธิบดีจีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เป็นสมัยที่ 3 อย่างเป็นทางการพร้อมทั้งได้เปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการกลาง (Central Committee) ซึ่งล้วนแต่เป็นคนสนิทของประธานาธิบดีสี โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีชื่อเต็มว่า Central Committee of the Chinese Communist Party หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Central Committee of the Communist Party of China โดยโครงสร้างอำนาจภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party: CCP) นั้นประกอบไปด้วยสมาชิกสามัญ 205 คน และสมาชิกสมบท 171 คน โดยจะมีการคัดเลือกสมาชิกโดยสภาแห่งชาติ (National Congress) ในการประชุมสมัชชาใหญ่ทุก 5 ปี ซึ่งเป็นการคัดเลือกในทางลับผ่านการหารือของคณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo) และคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee: PSC) อย่างไรก็ตามรายชื่อคณะกรรมการกลางชุดใหม่นี้กลับไม่มีชื่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคหลายคนรวมถึงนายหลี เค่อเฉียง ผู้นำอันดับ 2 ของจีนซึ่งในบางครั้งมีความเห็นต่างกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในเรื่องของนโยบายทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้รายชื่อของผู้นำระดับสูงชุดใหม่ที่ล้วนแต่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีสีทำให้มีความกังวลว่ากระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจของประธานาธิบดีสีนั้นจะมีประสิทธิภาพน้อยลงเนื่องจากมากกว่าครึ่งของคณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo) ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ล้วนเป็นผู้ที่เคยทำงานให้สี จิ้นผิงในช่วงที่เค้ายังเป็นเพียงผู้บริหารระดับกลางของพรรค นอกจากนั้นในการประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ยังมิได้มีการแต่งตั้งผู้หญิงเข้ามาเป็นสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองซึ่งเป็นการละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนานของพรรค

ถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายท่านอาจจะกำลังสงสัยว่า “คณะกรรมการกรมการเมือง” หรือ “Politburo” และ “คณะกรรมการประจำกรมการเมือง” หรือ “Politburo Standing Committee” นั้นต่างกันอย่างไร “Politburo of the Chinese Communist Party” หรือ “Politburo” นั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Political Bureau of the Communist Party of China Central Committee” เป็นคณะกรรมการซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในอดีตจะประกอบด้วยผู้นำระดับสูงของพรรค 25 คน แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เหลือเพียง 24 คน นำโดยเลขาธิการพรรค (General Secretary: GS) โดยคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นแตกต่างจากคณะกรรมการของพรรคคอมมิวนิสต์อื่นๆ เนื่องจากอำนาจของคณะกรรมการนั้นจะถูกรวบไปอยู่ที่ “Politburo Standing Committee” หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Standing Committee of the Political Bureau of the Communist Party of China Central Committee” อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับเลือก 7 คนจาก คณะกรรมการกรมการเมือง 24 คน คณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือ PSC นั้นถือเป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยในอดีต PSC เคยประกอบด้วยสมาชิกตั้งแต่ 5 คนไปจนถึง 11 คน มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและตัดสินใจในประเด็นสำคัญนอกเหนือสมัยประชุมของ Politburo ซึ่งโดยทฤษฎีแล้ว PSC เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่กว่า แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้น PSC คือกลุ่มผู้มีอำนาจที่แท้จริงเหนือคณะกรรมการกรมการเมือง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจีนได้เปิดเผยรายชื่อสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee: PSC) ชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 3 ที่เป็นสมาชิกของ PSC ตามกฎหมาย ในขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี เค่อเฉียง และนายหวาง หยางที่เป็นอดีตสมาชิก PSC ชุดก่อนกลับไม่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้แม้ว่าอายุจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถดำรงตำแหน่งได้เต็มวาระ 5 ปี ทั้งนี้นายจ้าว เล่อจี้ หัวหน้าคณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัยและนายหวัง ฮู่หนิง กุนซือด้านต่างประเทศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังคงเป็นสมาชิกของ PSC ตามเดิม 

Cio's view
Source: https://english.news.cn/20221022/08058aa98eef4f2094e82b7afae7a70c/c.html

นอกจากนี้ยังได้มีการแต่งตั้งสมาชิกใหม่ทั้งหมด 4 คน ได้แก่ 1) นายหลี่ เฉียง อายุ 63 ปี อดีตผู้ช่วยระดับสูงของสี จิ้นผิง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ปี 2017 2) นายไซ่ ฉี อายุ 66 ปี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำกรุงปักกิ่ง 3) นายติง เซวียเสียง อายุ 60 ปี ผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์และสำนักงานประธานาธิบดีที่ช่วยงานสี จิ้นผิงมาอย่างยาวนาน และ 4) นายหลี่ ซี อายุ 65 ปี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลกวางตุ้ง โดยผลการประชุมและการคัดเลือกคณะกรรมการดังกล่าวได้ส่งสัญญาณว่านโยบาย Zero Covid และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจทั่วโลก สำนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองคาดการณ์ว่านายหลี่ เฉียงที่เป็นเลขาธิการพรรคประจำนครเซี่ยงไฮ้มีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ในต้นปีหน้าแทนที่นายหลี่ เค่อเฉียง การแต่งตั้งนายหลี่ เฉียงให้เป็นหนึ่งในสมาชิก PSC แม้ว่าเขาจะถูกโจมตีอย่างหนักจากการ lockdown เซี่ยงไฮ้เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างนายหลี่และประธานาธิบดีสี ทั้งนี้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่เห็นว่านายหลี่ เฉียงเป็นผู้นำพรรคที่มีความคิดค่อนข้างเสรี นิยมการหารือแนวคิดใหม่ๆทางการค้า อย่างไรก็ตามหลังทราบผลการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนตอบรับไม่ดีนัก โดยในวันจันทร์ หุ้นจีน H-share และ A-share ปรับตัวลดลง 7.3% และ2.9% ตามลำดับ ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2022 หุ้นจีน H -share และ A-share ปรับตัวลง 37% และ 26% ตามลำดับ เรามองว่าระดับราคาปัจจุบันได้สะท้อนถึงข่าวร้ายไปแล้ว และมีระดับ Valuation ที่ค่อนข้างน่าสนใจแล้วในปัจจุบัน

Chart: H-Shares in the YTD

Cio's view

Chart: A-Shares in the YTD 

Cio's view

Source: TradingView, as of 26 October 2022

มาที่ฝั่งยุโรป อดีตนายกรัฐมนตรี Liz Truss ของอังกฤษได้ประกาศลาออกอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาหลังจากที่ได้พยายามอย่างหนักในการผลักดันแผนการลดภาษีซึ่งทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วนจนกลายเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เส้นทางทางการเมืองของเธอต้องพังทลายลงจนกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ หลังจากนั้น 4 วัน Rishi Sunak อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยออกมาเตือน Liz Truss ว่านโยบายการเติบโตด้วยการเก็บภาษีต่ำของเธอเป็นเพียงแค่เทพนิยายได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลกท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ Rishi Sunak ซึ่งปัจจุบันอายุ 42 ปี กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยแซงหน้า Robert Banks Jenkinson เอิร์ล แห่งลิเวอร์พูลซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 1812 และยังเป็นนายกรัฐมนตรีผิวสีเชื้อสายอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูคนแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษอีกด้วย อดีตผู้จัดการกองทุน Hedge Fund เข้ารับตำแหน่งพร้อมหน้าที่สำคัญในการนำความสงบสุขมาสู่พรรคอนุรักษ์นิยมหลังผ่านพ้นความสับสนอลหม่านของการมีนายกรัฐมนตรีถึง 3 คนภายในระยะเวลาเพียง 7 สัปดาห์ ซึ่งสิ่งแรกคือการแต่งตั้ง Jeremy Hunt เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมพร้อมมอบนโยบายในการทำให้คลังของอังกฤษกลับเข้าสู่ความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดย Sunak และ Hunt มีเป้าหมายที่จะดำเนินการตามมาตรการการคลังระยะกลางซึ่งต้องการจัดการปัญหาหนี้สาธารณะของอังกฤษให้อยู่ในการควบคุมภายในระยะเวลา 5 ปี

Cio's view
Source: https://brandinside.asia/rishi-sunak-richer-than-united-kingdom-monarch/

ทั้งนี้ รมว.คลังคนใหม่จะนำเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ปรับปรุงใหม่ระหว่างการประชุมของธนาคารอังกฤษ (BOE) ใน วันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้  โดยนาย Hunt คาดหวังว่าเขาจะสามารถโน้มน้าวตลาดและสำนักความรับผิดชอบด้านงบประมาณ (Office for Budget Responsibility: OBR) ให้เชื่อมั่นได้ว่าแผนการใช้จ่ายดังกล่าวจะสามารถควบคุมการกู้ยืมได้จริง และช่วยลดแรงกดดันในการเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BOE ลงได้ การดำรงตำแหน่งของนาย Hunt ยังช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจได้ว่านายกรัฐมนตรี Sunak จะดำเนินนโยบายการคลังที่สอดรับกับนโยบายการเงินแบบเข้มงวดของ BOE จากการที่เขาได้เสนอให้ยกเลิกแผนการลดภาษีครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านปอนด์โดยไม่ระบุถึงแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ของอดีตนายกรัฐมนตรี Truss ซึ่งได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นไปอยู่ที่ 4.6% ในวันที่ 12 ตุลาคม เนื่องจากนักลงทุนไม่เชื่อว่าแผนการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ โดย ณ วันที่ 25 ตุลาคม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.63% สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตลาดพร้อมที่จะ Sell off ทันทีที่มีการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด

Chart: UK 10-year Government Bond Yield in the YTD

Cio's view
Source: TradingView, as of 26 October 2022

ขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งกลางเทอม (Midterm Election) ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2023 เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้งหมด 435 ที่นั่ง และสมาชิกวุฒิสภา(สว.) 35 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่ง หลายสำนักข่าวชี้ให้เห็นว่าครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายของพรรคเดโมแครต เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจไบเดน (Bidenomics) เป็นนโยบายที่มีแนวโน้มในการหาเสียงค่อนยาก อย่างไรก็ดีหากวัดผลในเรื่องของตลาดแรงงานเพียงอย่างเดียวถือว่าทำผลงานออกมาได้ดี นับตั้งแต่ที่ไบเดนเข้ามาบริหารในเดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา เศรษฐกิจสหรัฐฯกลับมาฟื้นตัว และสามารถสร้างงานได้มากถึง 10 ล้านตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.5% แต่ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8.2% ในเดือนกันยายน ประกอบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นของภาครัฐ และการขึ้นภาษีของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่รวมถึงผู้ที่มีรายได้สูงทำให้นโยบาย Bidenomics กลายเป็นของที่ขายไม่ได้ จากผลสำรวจของสำนักข่าว RealClearPolitics พบว่าชาวอเมริกัน 57.9% ผิดหวังกับการบริหารเศรษฐกิจของไบเดน ในขณะที่มีเพียง 38.9% ที่พอใจในการทำงาน ถือได้ว่ามีโอกาสสูงที่พรรคเดโมแครตจะสูญเสียการควบคุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในครั้งนี้สอดคล้องกับผลการสำรวจของเว็บไซต์ FiveThirtyEight ซึ่งกล่าวว่าพรรครีพับลิกันมีโอกาสที่จะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร การสูญเสียเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภาจะผลต่อตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนในอีก 2 ปีข้างหน้า รวมถึงเกิดปัญหาในการออกกฎหมายเนื่องจากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะขัดขวางการออกกฎหมายสำคัญไม่ว่าจะเป็นการลาหยุดเพื่อดูแลครอบครัว (Family leave) การทำแท้งเสรี งบประมาณสนับสนุนตำรวจเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในชุมชน และนโยบายอื่นๆ ที่สำคัญของไบเดน ประกอบกับผลักดันกฎหมายใหม่ในการจำกัดการอพยพเข้าเมือง และการจำกัดการใช้จ่ายโดยใช้เพดานหนี้สาธารณะเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับฝ่ายบริหารของไบเดน รวมถึงเริ่มกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่ายของพรรคเดโมแครต

ความร้อนแรงของการเมืองทั่วโลกที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้ส่งสัญญาณว่าในปี 2023 จะเป็นอีกปีที่ตลาดมีความผัวผวนเพิ่มเติมนอกเหนือจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสูงสุดที่เท่าไหร่ (Terminal rate) ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวได้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 4.3% ในวันที่ 21 ตุลาคม 2022 โดยล่าสุดนักวิเคราะห์ของ Wall Street หลายสำนักได้มีการปรับประมาณการ Terminal rate ขึ้นเกินระดับ 5.0% แสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นในการคาดการณ์ของ FOMC ที่คาดว่า Terminal rate อยู่ที่ 4.6% อย่างไรก็ตามหาก FOMC ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% ในการประชุม FOMC เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ (Fed funds rate) อยู่ที่กรอบ 4.50%-4.75% ในสิ้นปี 2022 และหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% อีก 2 ครั้งในปีหน้า จะส่งผลให้ Fed funds rate อยู่ที่ 5.00% - 5.25% แสดงให้เห็นว่า การคาดการณ์ Terminal rate ของ FOMC ในเดือนกันยายนนั้นต่ำเกินไปหากพิจารณาจากเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า FOMC จะมีการเปลี่ยน Terminal rate หรือไม่อย่างไรในการประชุม FOMC ในเดือนธันวาคม ระหว่างนี้เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นภายหลังการปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนตุลาคม โดยเราได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นจะกลับมาฟื้นตัวใน CIO’s view ฉบับเดือนกันยายน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นแค่การฟื้นตัวระยะสั้น ดังนั้นนักลงทุนควรที่จะระมัดระวังในการลงทุน และไม่เพิ่มสัดส่วนของหุ้นมากจนเกินไป แต่ควรใช้จังหวะในการฟื้นตัวของตลาดในการลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงและประเมินมุมมองอีกครั้งในช่วงสิ้นปี

Chart: US 10-year Government Bond Yield in the YTD

Cio's view
Source: TradingView, as of 26 October 2022

กองทุนแนะนำ

Source:

  1. Mitchell, Tom, et al. “Xi Jinping consolidates power with leadership shake-up at party congress.” The Financial Times, 23 October 2022, www.ft.com/content/fa7b9d68-7c73-4287-8ca7-78c8ddc8dc72. Accessed 26 October 2022.
  2. Zhai, Keith, and Stella Yifan Xie. “China’s New Slate of Top Leaders Stirs Concern Over Economy.” The Wall Street Journal, 23 October 2022, www.wsj.com/articles/chinas-new-slate-of-top-leaders-stirs-concern-over…. Accessed 26 October 2022.
  3. Zhai, Keith, and Chun Han Wong. “China’s Xi Claims Third Term as Communist Party Leader.” The Wall Street Journal, 23 October 2022, www.wsj.com/articles/chinas-xi-claims-third-term-as-communist-party-lea…. Accessed 26 October 2022.
  4. Colchester, Max. “Liz Truss Resigns as U.K. Prime Minister After Tax Plan Caused Market Turmoil.” The Wall Street Journal, 20 October 2022, www.wsj.com/articles/liz-truss-resigns-as-u-k-prime-minister-1166626948…. Accessed 26 October 2022.
  5. Colchester, Max, and Paul Hannon. “Rishi Sunak Wins Vote to Become U.K.’s Next Prime Minister After Liz Truss Resigns.” The Wall Street Journal, 24 October 2022, www.wsj.com/articles/rishi-sunak-extends-lead-in-race-for-next-u-k-prim…. Accessed 26 October 2022.
  6. Parker, George, and Delphine Strauss. “Rishi Sunak reappoints Jeremy Hunt as chancellor.” The Financial Times, 26 October 2022, www.ft.com/content/b2aac231-091a-4953-8843-cf84c38c1260. Accessed 26 October 2022.
  7. Politi, James, and Lauren Fedor. “’Inflation is an acid’: Bidenomics proves tough sell on campaign trail.” The Financial Times, 25 October 2022, www.ft.com/content/0e2b2571-c9ef-4850-8828-9b053aacbc7e. Accessed 26 October 2022.
  8. Hunnicutt, Trevor, et al. “Midterm elections outlook darkens for Biden’s White House.” Reuters, 26 October 2022, www.reuters.com/world/us/midterm-elections-outlook-darkens-bidens-white…. Accessed 26 October 2022.
  9. Wong, Chun Han, and Keith Zhai. “China’s Leaders: Xi Jinping and His Men.” The Wall Street Journal, 23 October 2022, www.wsj.com/articles/chinas-leaders-xi-jinping-and-his-men-11666538145?…. Accessed 27 October 2022.
  10. “Central Committee of the Chinese Communist Party.” Wikipedia, The Free Encyclopedia, Wikimedia Foundation, Inc., 23 October 2022, en.wikipedia.org/wiki/Central_Committee_of_the_Chinese_Communist_Party. Accessed 27 October 2022.
  11. “Politburo of the Chinese Communist Party.” Wikipedia, The Free Encyclopedia, Wikimedia Foundation, Inc., 25 October 2022, en.wikipedia.org/wiki/Politburo_of_the_Chinese_Communist_Party. Accessed 27 October 2022.
  12. “Politburo Standing Committee of the Chinese Communist Party.” Wikipedia, The Free Encyclopedia, Wikimedia Foundation, Inc., 24 October 2022, en.wikipedia.org/wiki/Politburo_Standing_Committee_of_the_Chinese_Communist_Party. Accessed 27 October 2022.

อ่าน CIO’s View: October 2022 - Global political activity is heating up