การปรับขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนามครั้งนี้ หนุนด้วยปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง

Image


การปรับขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) ปีนี้ เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ๆ ในอดีต

Image

Note: *HSC Forecasts
Source: Principal, HSC Research as of 26 August 2025
 

  • ตั้งแต่ต้นปี VN Index ให้ผลตอบแทนถึง 33% (Source: Bloomberg as of 31 August) จากหลายปัจจัยบวก เช่น ผลของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ทำให้เวียดนามยังคงสามารถแข่งขันในฐานะฐานการผลิตที่สำคัญของโลกได้, การประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะปฏิรูปโครงสร้างระบบราชการของประเทศ หรือการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นเวียดนามมาแล้วกว่า 10 ปี จะพบว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นเวียดนาม กล่าวคือในอดีตตลาดหุ้นเวียดนามเคยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้หลายครั้ง 

  • อย่างไรก็ตามข้อมูลต่าง ๆ ในอดีตตามตารางด้านบนสามารถบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นของหุ้นเวียดนามในครั้งนี้ ถูกหนุนด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่าในอดีต เช่น EPS Growth ที่สูงกว่า, มูลค่า (Valuation) ที่ถูกกว่า และเป็นการเติบโตส่วนใหญ่จากปัจจัยภายในประเทศ เช่น การปฏิรูประบบราชการครั้งประวัติศาสตร์ คือการลดจำนวนข้าราชการ การยุบและควบรวมบางกระทรวงเข้าด้วยกันเพื่อการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ลดการทำงานซ้ำซ้อน นอกจากนี้แผนการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐก็อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

  • การเข้าร่วมในดัชนี FTSE Emerging หนุน Foreign Fund Flow 6 - 9 พันล้านดอลลาร์ ส่งเสริมการเติบโตหุ้นเวียดนาม จากเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังจะถูกอัปเกรดเข้าไปร่วมคำนวณในดัชนี FTSE Emerging โดยจะประกาศผลในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ โดย Foreign Fund Flow ที่คาดหวังมีแนวโน้มมูลค่าสูงถึง 6 – 9 พันล้านดอลลาร์ เมื่อนับรวมทั้งกองทุนแบบ Active และ Passive 

  • PRINCIPAL VNEQ: เน้นลงทุนกลุ่มที่ได้อานิสงค์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกลงทุนหุ้นคุณภาพและปัจจัยพื้นฐานที่ดีเป็นหลัก เช่น กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ คุณภาพดี ที่มี NPL ต่ำเป็นสัดส่วนหลัก โดยบริษัท Techcombank (TCB) ที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนหลัก และมีน้ำหนักติดใน 5 อันดับแรกสูงสุดที่ 8.6% เพิ่งได้รับการอัปเกรดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) สู่ BB โดย S&P Global Ratings ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินในเวียดนามที่มากขึ้น นอกจากนี้กองทุนทยอยสะสมหุ้น (Selective buy) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัว ทั้งอสังหาฯที่อยู่อาศัย และภาคอสังหาฯท่องเที่ยว ตามการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาคอสังหาฯส่งสัญญานการเติบโตอย่างเข้มแข็ง รวมถึงปัญหาเรื่องใบอนุญาตก่อสร้างได้รับการแก้ไขแล้ว ทำให้มีการเร่งก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่เคยหยุดชะงักไป และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เนื่องจากทิศทางนโยบายการค้ากับสหรัฐที่ชัดเจนขึ้นและอัตราภาษีอยู่ในระดับการแข่งขันได้ รวมทั้งเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตที่สำคัญของโลกโดยเฉพาะภาคเทคโนโลยี 

  • PRINCIPAL VNEQ: สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่น โดยในเดือน ก.ค. 2568 กองทุนสร้างผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย รวมถึงอยู่ในควอร์ไทล์ 1 ตลอดในช่วง ตั้งแต่ต้นปี (YTD), 3 เดือน, 6 เดือน, 3 ปี และได้รับ Morningstar 5 ดาว (Source: Morningstar as of 15 August 2025) แนะนำนักลงทุนสามารถทยอยสะสม PRINCIPAL VNEQ ด้วยมุมมองการลงทุนระยะยาว จากปัจจัยบวกที่กล่าวข้างต้น  

Image

Source: Morningstar as of 15 August 2025
 

Image

Source: Principal as of 31 July 2025

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน  https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน /Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต