ผลเจรจาการค้าสหรัฐ-เวียดนามเป็นไปตามตลาดคาด, เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอสังหาฯตอนใต้ชัดเจนมากขึ้น

Image

 

  • ตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาปรับขึ้น 8.5% แต่เป็นการปรับตัวขึ้นแบบกระจุกตัว โดยที่ดัชนีปรับตัวขึ้นราว 100 จุด แต่เป็นผลจากหุ้นกลุ่ม Vingroup และ Vinhomes ประมาณ 90 จุด เป็นข้อบ่งชี้ว่า Market Breadth ของตลาดไม่ดี ทั้งนี้กองทุนฯ ไม่มีการลงทุนใน Vingroup เนื่องจากไม่อยู่ใน Investment Universe หลังไม่ผ่านการคัดกรองปัจจัยความเสี่ยงด้านฐานะทางการเงินของบริษัท 

  • ขณะที่ผลการเจรจาทางการค้าเป็นไปตามสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเวียดนามจะจ่ายภาษีศุลกากร 20% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่ส่งมายังสหรัฐฯ และต้องเปิดทางให้สหรัฐฯ ส่งสินค้าเข้าเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ซึ่งที่ผ่านมาตลาดก็ตอบรับ (priced in) ไปค่อนข้างเยอะแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งเวียดนามด้วย เช่น ไทย หรือ อินเดีย เพราะอาจจะเห็นผลกระทบในเชิงเปรียบเทียบได้

  • ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทีมผู้จัดการกองทุน PRINCIPAL VNEQ ได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามทางตอนใต้ (โฮจิมินห์ ซิติ้) ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น หลายโครงการที่เคยติดปัญหาเรื่องใบอนุญาตก่อสร้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สามารถกลับมาเริ่มงานก่อสร้างฐานรากเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิด Pre-sale ในช่วงปลายปีนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนได้เยี่ยมชมโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในเขตเมือง Thu Duc ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) แห่งใหม่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่โดดเด่น ได้แก่ 1) รถไฟฟ้าใต้ดินสายใหม่ 2) ทางด่วนสายใหม่ที่เชื่อมไปยังเมือง Dong Nai และเมือง Binh Duong 3) อุโมงค์และสะพาน Thu Thiem ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างชัดเจน ทำให้เมืองนี้จึงเป็นที่น่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ และกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินและนวัตกรรมแห่งใหม่ 

  • กลยุทธ์การลงทุนของ PRINCIPAL VNEQ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568: ทางบลจ.พรินซิเพิลมองว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนยังโตได้ที่ 15% หลังจากถูกปรับประมานการณ์ลงเล็กน้อยจากผลกระทบของภาษี นอกจากนี้ทีมผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพและปัจจัยพื้นฐานที่ดีเป็นหลัก ซึ่งพิจารณาไปถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และธรรมาภิบาลของผู้บริหาร โดยพอร์ตการลงทุนยังคงเน้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก และเริ่มกลับมาสนใจโดยเน้น Selective Buy ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จากการเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว กลุ่มอุปโภคบริโภค และหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคส่งออกมากขึ้น 

  • แนะนำนักลงทุนสามารถทยอยซื้อสะสมหุ้นเวียดนามได้ผ่าน PRINCIPAL VNEQ เพราะว่านอกจากบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐแล้วเวียดนามยังเป็นประเทศที่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง เช่น ยอดส่งออก, FDI การบริโภคในประเทศ หรือจำนวนนักท่องเที่ยว และมีปัจจัยบวกสำคัญหลัก ๆ ในปีนี้คือการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจำนวนมาก และการควบรวมหุ้นเวียดนามในดัชนี FTSE Emerging Markets ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนก.ย.ปีนี้ รวมถึงหุ้นเวียดนามมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ (Forward P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ในขณะที่การเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับสูง โดยนักลงทุนสามารถรับชมกลยุทธ์เวียดนามครึ่งปีหลัง 2025 รายการ VIETNAM THE MASTER โดย คลิกที่นี่

    Image

     

  • ผู้คำเตือน:ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต