PRINCIPAL GCLEAN ให้ผลตอบแทนถึง +25.7% ตั้งแต่เปลี่ยนกองทุนหลัก ที่ลงทุนหุ้นพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานสะอาดยุคใหม่

Image

 

  • กองทุน PRINCIPAL GCLEAN ตั้งแต่ (8 เม.ย. 68) ที่มีการเปลี่ยนกองทุนหลักเป็น VanEck® Uranium and Nuclear ETF ผลตอบแทนปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ +25.7% (Source: Bloomberg as of 21 May 2025) โดยปัจจัยหนุนหลักยังคงเป็นความต้องการกระแสไฟฟ้าที่มากขึ้นทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพลังงานสะอาดที่มาจากพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งมีรายละเอียดตามด้านล่าง 

  • พลังงานนิวเคลียร์ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณมากและเสถียรภาพ โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ พลังงานนิวเคลียร์ถือเป็นพลังงานสะอาดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เนื่องจากกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ โดยไม่ได้พึ่งพาปัจจัยภายนอกเช่น ลม หรือแสงแดด ทำให้มีความสม่ำเสมอต่อการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นพลังงานนิวเคลียร์จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนโลกสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ประกอบกับโลกยุคปัจจุบันที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และอุตสาหกรรม AI เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยข่าวล่าสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เยือนซาอุดิอาระเบีย คว้าดีลลงทุน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในส่วนนี้มีการรวมถึงข้อตกลงในการลงทุนด้าน AI โดยสหรัฐฯ จะช่วยดันให้ซาอุดิอาระเบียเป็นศูนย์กลางด้าน AI ผ่านการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Nvidia, AMD ทั้งในเรื่องชิป และโครงสร้างพื้นฐาน

  • นโยบายภาครัฐในหลายประเทศที่ให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยในบางประเทศมีการต่ออายุโรงไฟฟ้าที่เคยมีแผนปลดระวาง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น และข่าวล่าสุดบริษัทเปโตรเวียดนาม (PetroVietnam) บริษัทพลังงานใหญ่ของเวียดนามได้ลงนามร่วมทุนกับบริษัทเวสติ้งเฮาส์ (Westinghouse) จากสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันพัฒนา โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมบุคลากร

  • แนะนำทยอยสะสมกองทุน PRINCIPAL GCLEAN เพื่อเกาะกระแสการเติบโตของพลังงานนิวเคลียร์ โดยกองทุนนี้ เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ การก่อสร้าง บำรุงรักษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ บริษัทผลิตอุปกรณ์ เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ รวมถึงการดำเนินธุรกิจเหมืองยูเรเนียมเพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลก 

  • พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักที่มีการกระจายการลงทุนในบริษัทจากหลากหลายประเทศทั่วโลก นำโดยสหรัฐฯ 47%, แคนาดา 14%, อิตาลี 7% ออสเตรเลีย 6% และอีกหลากหลายประเทศ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งกระจายอยู่ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ Utilities 48.8%, Energy 36.7% และ Industrials 14.3% ตัวอย่างของหุ้นในพอร์ตการลงทุน ได้แก่ 1.บริษัท Constellation Energy Corp. ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานปลอดคาร์บอนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่ง ล่าสุดบริษัทร่วมมือกับ Microsoft ในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้กับ Data Centers ของ Microsoft 2. บริษัท Cameco เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตยูเรเนียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัททำธุรกิจค้นหาและจัดสร้างเหมืองยูเรเนียมแบบครบวงจรโดยใช้เทคนิคพิเศษที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 3. บริษัท BWXT เป็นบริษัทที่มีประวัติยาวนาน มีความเชี่ยวชาญด้านจัดหาอุปกรณ์นิวเคลียร์และเชื้อเพลิงให้กับรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมนิวเคลียร์เชิงพาณิชย์

Image

 

คำเตือน: 
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประเภทนิวเคลียร์และยูเรเนียม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน/ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐฯ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน/  ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต