คว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนเติบโต กับกองทุนตราสารหนี้มาเลเซีย กองแรกของไทย

มาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน ที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) เฉลี่ยราวปีละ 4 - 4.5% โดยรัฐบาลมาเลเซียได้ดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวที่เรียกว่า “Malaysia Plan 13” ตั้งเป้า GDP เติบโตเฉลี่ย 4.5 - 5.5% ต่อปี (2026 - 2030) โดยการควบคุมเงินเฟ้อและระดับหนี้สาธารณะ พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงตั้งเป้าเป็นผู้นำการผลิตและศูนย์กลางการผลิตชิปของโลก 

นอกจากนี้ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ยังมีศักยภาพในการใช้นโยบายการเงินแบบการผ่อนคลายเพิ่มเติม (policy room) เนื่องจากอยู่ในช่วงต้นวัฎจักรของการลดดอกเบี้ย โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่ในช่วงกลางวัฎจักรของการลดดอกเบี้ย ซึ่งลดไปแล้ว 4 ครั้ง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายมาเลเซียในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.75% ซึ่งสูงกว่าประเทศไทยที่ 1.50% สะท้อนว่าธนาคารกลางมาเลเซียยังสามารถปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้หากจำเป็น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ 

ตราสารหนี้ของมาเลเซียมีอันดับเครดิต (credit rating) ของพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับสูงที่ A3 (Moody's rating) และ A- (S&P Global rating) ซึ่งสูงกว่าประเทศไทย สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือในระยะยาว อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยพันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียอายุ 10 ปี ให้อัตราผลตอบแทนจนถึงวันครบกำหนด (YTM) ที่ 3.38% ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่ 1.35% รวมไปถึงนโยบายการคลังของมาเลเซียที่มุ่งลดการขาดดุล ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณพันธบัตรออกใหม่ลดลง และมีแนวโน้มทำให้ราคาพันธบัตรในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต (Source: Bloomberg, Bond Pricing Agency Malaysia, Thai BMA, as of 18 August 2025)

บลจ.พรินซิเพิล แนะนำลงทุน PRINCIPAL MYRFIUH (IPO 29 ก.ย. - 10 ต.ค. 68) กองทุนแรกในไทยที่ลงทุนในตราสารหนี้มาเลเซียระดับ Investment Grade ผ่านกองทุนหลัก Principal Lifetime Bond ที่ได้รับรางวัล Morningstar 4 ดาว ด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

1.ลงทุนทั้งพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนระดับ Investment Grade ที่มี Credit Rating เฉลี่ย AAA ถึง AA1 มีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ (Duration) อยู่ที่ 4.41 ปี และมีอัตราผลตอบแทนจนถึงวันครบกำหนด (Yield to Maturity) ที่ 3.79% (Source: Principal Lifetime Bond presentation July 2025) 

2.ตราสารหนี้ที่ลงทุนไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกระบวนการลงทุนที่แข็งแกร่ง และมีทีมวิเคราะห์เครดิตเชิงลึกที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในมาเลเซีย

3.กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนย้อนหลังที่โดดเด่น 1 ปีที่ 5.7% และเฉลี่ย 3 ปีที่ 5.4% ต่อปี และให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 18 ปีจาก 20 ปีที่ผ่านมา โดยผลการดำเนินงานอยู่ใน Quartile 1 หรือ Quartile 2 อย่างต่อเนื่อง ในทุกช่วงเวลา เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน (Source: Bloomberg as of 31 August 2025)

4.กองทุนมีนโยบายเปิดรับความเสี่ยงด้านค่าเงิน (Unhedged) ส่งผลให้ประหยัดต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยง (Hedging Cost) ที่ 2 - 2.5% ต่อปี และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับมาเลเซียริงกิต    โดยจากการคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับริงกิต 2.13% ในช่วงไตรมาส 4 2025 (Source: Bloomberg as of 10 September 2025)

นักลงทุนสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (คลิก) หรือดูคลิปวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่ (คลิก)

Image

Image

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนหลักลงทุนลงทุนกระจุกตัวในประเทศมาเลเซีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย /  กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ / กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / Morning Star Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานใน