โอกาสสะสมกองทุนตราสารหนี้โลก และหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน /REITs หลังเฟดลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณลดเพิ่ม 1 ครั้งปีหน้า

Image

 

  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ติดต่อกันตามคาดที่ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงมาอยู่ในกรอบ 3.50% - 3.75% อย่างไรก็ตามมีคณะกรรมการ 3 ท่านที่ไม่เห็นด้วย โดยมี 2 ท่านมองว่าควรคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ขณะที่อีก 1 ท่านมองว่าควรลดดอกเบี้ย 0.50% โดยเจอโรม พาวเวลล์ (ประธานเฟด) ให้แถลงว่าเฟดได้ลดดอกเบี้ยอย่างเพียงพอที่จะช่วยเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเลขตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอ ขณะที่มั่นใจว่าระดับดอกเบี้ยปัจจุบันยังสามารถควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังได้รับผลกระทบจากนโยบายการกีดกันทางการค้า  

  • แม้ว่าเฟดจะมีท่าที Hawkish Cut คือการลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง แต่เฟดประกาศกลับมาซื้อพันธบัตรระยะสั้น (Treasury bills) มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อป้องกันการขาดสภาพคล่องของระบบเศรษฐกิจ และปรับการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีหน้าขึ้นเป็น 2.3% จาก 1.8% และปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อ (PCE) ลงเล็กน้อยที่ 2.4% จาก 2.6% แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่ดีขึ้นในปีหน้า และมีโอกาสสูงที่ประธานเฟดคนใหม่จะเป็นเควิน แฮสเซตต์ ที่มีแนวโน้มจะใช้นโยบายผ่อนคลายมากขึ้น

  • นอกจากนี้ เราปรับมุมมองตราสารหนี้ไทยขึ้นสู่ Neutral จาก Slightly Underweight หลังเริ่มเห็นแรงขายเบาบางลง และเงินต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาซื้อตราสารหนี้ไทย โดยในเดือน พ.ย. 2568 มีเงินลงทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นจำนวนถึง 23,910  ล้านบาท ซึ่งส่วนมากเป็นการซื้อตราสารหนี้ระยะยาวอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป 

  • บลจ.พรินซิเพิล แนะนำทยอยสะสมกองทุนตราสารหนี้โลก PRINCIPAL GFIXED และ PRINCIPAL GCREDIT และกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน /REITs PRINCIPAL GIFUH และ PRINCIPAL iPROPEN เนื่องจากสินทรัพย์ประเภทนี้ได้รับแรงหนุนจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในวัฏจักรขาลง และปัจจุบันตลาดได้รับรู้ประเด็นเรื่อง Hawkish Cut ไปพอสมควรแล้ว โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี อยู่ที่ 3.5% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน และแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลังประธานเฟดคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งแทนเจอโรม พาวเวลล์ ที่จะหมดวาระในเดือน พ.ค. ปี 2569 ที่จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมในปีหน้า นักลงทุนสามารถอ้างอิงสัดส่วนกองทุนแนะนำที่เหมาะสมได้ตามตารางด้านล่าง

Image

 

Image

 

Image

 


คำเตือน: 
Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income” 
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GLEADER และ PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรปผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL MYRFIUH กองทุนหลักลงทุนลงทุนกระจุกตัวในประเทศมาเลเซีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL iPROPEN ลงทุนกระจุกตัวในประเทศแถบเอเชีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DEF นี้มีการกระจุกตัวของการถือหน่วยการลงทุนจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ถือหน่วยการลงทุนเกิน 1 ใน 3 เป็นสัดส่วนร้อยละ 75.60 (ณ วันที่ 31 ต.ค. 2568) โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ (www.principal.th) / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL MYRFIUH และ PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / PRINCIPAL iPROPEN เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และ/หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REITs) และ/หรือกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐานโดยตรง เช่น ความเสี่ยงจากความผันแปรของค่าเช่าและอัตราการเช่า การเพิ่มขึ้นของภาษีทรัพย์สิน การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ค่าเสื่อมราคาของอาคารเมื่อเวลาผ่านไป และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น รวมถึงความเสี่ยงจากการกระจุกตัวอาจทำให้มี ความผันผวนมากกว่าการลงทุนทีกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต