เงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ต่ำคาด 4 เดือนติด, PRINCIPAL GLEADER เน้นลงทุนในหุ้นชั้นนำ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากร (Tariff) จำกัด
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดเดือน พ.ค. โดยรวมต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทั้งเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) โดยเงินเฟ้อทั่วไปปรับขึ้นที่ 0.1% MoM ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 0.2% MoM ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานปรับขึ้น 0.1% MoM ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เช่นเดียวกัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากราคารถยนต์ ตั๋วเครื่องบิน เสื้อผ้า รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลง โดยตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าภาษีที่โดนัลด์ ทรัมป์ปรับขึ้นต่อประเทศคู่ค้า ยังไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากภาคธุรกิจยังเป็นตัวกลางที่รับต้นทุนที่สูงขึ้นไว้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนของภาษีต่อเงินเฟ้อ แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับขึ้นตอบรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่มีสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้นไปในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นหากมีปัจจัยความไม่แน่นอนอื่น ๆ เข้ามากระทบ อาจส่งผลให้ตลาดปรับฐานได้ เราจึงยังคงแนะนำการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง ที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม โดยลงทุนผ่านกองทุน PRINCIPAL GLEADER ที่มีกองทุนหลักคือ Brown Advisory Global Leaders Fund
ด้วยนโยบายการลงทุนที่รัดกุม ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผู้บริหาร เพื่อพยายามสร้างผลตอบแทนบวกเชิงเปรียบเทียบในการลงทุนทุกสภาวะตลาด และผู้จัดการกองทุนทำงานร่วมกับ Behavioral Coach เพื่อมุ่งเน้นลดอคติต่อการลงทุน (Investment Bias) ให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้กองทุนสามารถมีผลตอบแทนชนะ Benchmark โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงในปีนี้จากการกีดกันทางการค้า กล่าวคือในช่วง YTD กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 9.34% ขณะที่ Benchmark ให้ผลตอบแทน 5.32% (Source: Brown Advisory as of 31 May 2025) คลิกอ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติม
น้ำหนักส่วนใหญ่ของหุ้นในพอร์ตได้รับผลกระทบที่ต่ำจากการขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนหลักส่วนใหญ่เกี่ยวกับภาคบริการ (Services) เช่น กลุ่มการเงิน (Financials) และ กลุ่มเทคโนโลยี (Software Tech) กลุ่มการแพทย์ (Health Care) หรือกลุ่มสื่อสาร (Communication Services) ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้มุ่งเน้นจะขึ้นภาษีต่อกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้
คำเตือน: Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GLEADER กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรปผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL KEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเกาหลีผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต