เริ่มเห็นสัญญาณตลาดหุ้นโลกผันผวน แนะนำทยอยสะสมหุ้นไทย จากมูลค่าที่น่าสนใจ
ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มเคลื่อนไหวผันผวน โดยเริ่มเห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีราคาสูง และมูลค่าตึงตัว ไปยังหุ้นกลุ่มที่มีความเป็น Defensive และหุ้นที่มูลค่ายังอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากขึ้น โดยภาวะการลงทุนถูกกดดันจากความไม่แน่นอนในการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือน ธ.ค. เนื่องจากข้อมูลสำคัญที่เฟดใช้ในการตัดสินใจ อย่างตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเอกชน (Nonfarm payroll) ประจำเดือน ต.ค. อาจไม่สามารถเผยแพร่ได้จากการหยุดทำการของรัฐบาล แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้วก็ตาม โดยตลาดมองโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ลงมาสู่ระดับ 50.7% จาก 70% ในสัปดาห์ก่อน (Source: CME FedWatch as of 14 November 2025)
บลจ.พรินซิเพิล ปรับมุมมองหุ้นเกาหลีลงสู่ Neutral และแนะนำขายทำกำไรบางส่วนหลังจากที่ได้เริ่มแนะนำลงทุนตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. ปีนี้ เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตจากมูลค่าของหุ้นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างตึงตัว และเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
อีกทั้งเราแนะนำขายทำกำไร PRINCIPAL GCLEAN สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านมูลค่าที่เริ่มตึงตัว หลังแนะนำลงทุนมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีนี้ และราคาได้ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ +86.17% ตั้งแต่ต้นปี (Source: Principal as of 31 October 2025) อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว สามารถทยอยสะสม PRINCIPAL GCLEAN ได้เนื่องจากยังมีปัจจัยหนุนทั้งความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม AI และ Data center อีกทั้งการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ทำให้หลายประเทศกลับมาให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เนื่องจากสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้จำนวนมหาศาล โดยปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศในระดับที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมอง Slightly Overweight ต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ยังคงมีปัจจัยบวกที่ยังไม่ถูกสะท้อนไปในราคา โดยปัจจุบันตลาดหุ้นไทยซื้อขายในระดับที่น่าสนใจ มี Forward P/E ราว -0.3SD เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งยังไม่แพง อีกทั้งยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Forward dividend yield) ราว 4.4% ที่ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลง
โดยในช่วงที่เหลือของปี ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยหนุนทั้งจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มเบาบางลง และการใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย โดยจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเปิดทางให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าคงอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง (Bullish) ทั้งในกลุ่มนักลงทุนบุคคล บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศ สะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยยังคงน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนและมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้นในระยะข้างหน้า (Source: FETCO as of October 2025)
จากปัจจัยข้างต้นทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มในเชิงบวก และมีความเสี่ยงขาลงที่จำกัด บลจ.พรินซิเพิล แนะนำทยอยสะสมกองทุนหุ้นไทยผ่าน PRINCIPAL DEF ที่ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Money & Banking Awards 2 ปีติดต่อกัน (2567-2568) หรือ PRINCIPAL iDIV เพื่อเตรียมรับปัจจัยบวกดังกล่าว โดยนักลงทุนสามารถอ้างอิงน้ำหนักการลงทุนที่เหมาะสมได้จากพอร์ตลงทุนแนะนำในหน้าที่ 2
คำเตือน: Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GLEADER และ PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรปผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL MYRFIUH กองทุนหลักลงทุนลงทุนกระจุกตัวในประเทศมาเลเซีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL KEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเกาหลีผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DEF นี้มีการกระจุกตัวของการถือหน่วยการลงทุนจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ถือหน่วยการลงทุนเกิน 1 ใน 3 เป็นสัดส่วนร้อยละ 75.60 (ณ วันที่ 31 ต.ค. 2568) โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ (www.principal.th) / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL MYRFIUH และ PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

