เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ระบุตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มอ่อนแอ จัดพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Principal Multi-Asset Funds

Image

 

  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในคืนที่ผ่านมาตามที่ตลาดคาด โดยสตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด โหวตสวนมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ 

  • นอกจากนี้ การคาดการณ์ของสมาชิก FOMC ต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปีนี้ และลด 0.25% อีก 1 ครั้ง ในปี 2569 อีกทั้งได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้และปี 2569 สู่ระดับ 1.6% และ 1.8% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.4% และ 1.6% ตามลำดับ รวมถึงปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (Core PCE) ปี 2569 สู่ระดับ 2.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.4% ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่คาดว่ายังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 4%  

  • โดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้กล่าวถึงความกังวลต่อตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ทั้งยังมีความเสี่ยงขาลงของการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวในระดับสูงกว่าเป้าหมาย และเฟดยังคงให้ความสำคัญกับเป้าหมาย Dual mandate คืออัตราการจ้างงานสูงสุดและรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อที่ 2% โดยจะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในอนาคตแบบ “meeting-by-meeting” จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะได้รับในระหว่างการประชุมแต่ละครั้ง 

  • จากถ้อยคำแถลงและท่าทีของเจอโรม พาวเวลล์ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอน ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่ยังคงอยู่ รวมถึงตลาดคาดการณ์ว่าในปีหน้าเฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในขณะที่ปัจจุบันเฟดส่งสัญญาณจะลดดอกเบี้ยปีหน้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้มีความเสี่ยงหากเฟดไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ตามที่ตลาดคาดการณ์

  • บลจ.พรินซิเพิล แนะนำลงทุน Principal Multi-Asset Funds ที่มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก และมีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับทุกภาวะตลาด เตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆ โดย Principal Multi-Asset Funds ประกอบด้วย 3 กองทุนคือ PRINCIPAL MAINCOME, PRINCIPAL MABALANCED และ PRINCIPAL MAGLOBAL โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และผลตอบแทนที่คาดหวังโดยเฉลี่ยต่อปี 

  • อีกทั้งเรายังคงแนะนำทยอยสะสมหุ้นจีน กลุ่มเทคโนโลยีผ่าน PRINCIPAL CHTECH ที่เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากแรงหนุน Fund flow ต่างประเทศ ที่มีโอกาสไหลมายังตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย หลังอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับลดลง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยการเจรจาครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้ 

    Image

     

    Image
Image

ผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยต่อปีเป็นประมาณการณ์โดยฝ่ายบริหารการลงทุนด้วยข้อมูลตามจริงในอดีตย้อนหลัง (ตั้งแต่ปี 2019 ถึง ปี 2023) เมื่อลงทุนโดยตลอดทั้งวัฎจักรของการลงทุน ทั้งนี้พอร์ตประมาณการลงทุนดังกล่าวไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ PRINCIPAL CHTECH ลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL MAGLOBAL ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต