หุ้นเวียดนามเริ่มปรับฐานจากแรงขายทำกำไร แนะนำทยอยสะสมผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ

Image

 

  • ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงแรง 5.47% ในวันที่ผ่านมา จากแรงขายในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดยหุ้น Vingroup และ Vinhomes ซึ่งช่วยขับเคลื่อนดัชนี และช่วยหนุน Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามในช่วง 2 - 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นเรื่องรายงานที่เผยแพร่โดยรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระบุว่าธนาคารพาณิชย์ในเวียดนามใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ผิดวัตถุประสงค์, เปิดเผยข้อมูลอย่างไม่เพียงพอ และบริหารเงินทุนอย่างไม่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวเป็นการรายงานผลการตรวจสอบปี 2015 - 2023 ซึ่งธนาคารที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขและชำระค่าปรับตามที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดไปแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค. ที่ผ่านมา และปัจจุบันกฎระเบียบก็มีความเข้มงวดมากขึ้น

  • นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบริษัทหลายแห่งในกรณีดังกล่าวได้ชี้แจงว่าหุ้นกู้ทั้งหมดได้รับการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นเราจึงไม่มีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนในช่วงปี 2022

  • นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนมีการลดความเสี่ยงก่อนจะถึงการประชุมสมัชชาแห่งชาติ (National Congress) ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่จะมีการโหวตตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวางยุทธศาสตร์และนโยบายหลักของประเทศสำหรับอีก 5 ปีข้างหน้า รวมถึงก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลข Broker margin ในอาทิตย์นี้ 

  • โดยสรุปเราเชื่อว่าเหตุผลหลักของการปรับตัวลงครั้งนี้คือแรงขายทำกำไร มากกว่าประเด็นเรื่องหุ้นกู้ภาคเอกชน เนื่องจากตลาดปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเม.ย. และยังไม่ได้มีการปรับฐานอย่างมีนัย โดยแรงขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่มีการใช้ Margin และได้มีการปิด Position เพื่อทำกำไร โดยตามข้อมูลที่เปิดเผยล่าสุด ณ เดือนก.ย. 2568 ระดับ Margin-to-equity ของตลาดหุ้นเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 120–125% ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2564 ที่ประมาณ 140% อย่างมาก และยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่หน่วยงานควบคุมกำหนดไว้ว่าไม่เกิน 200% 

  • มุมมองการลงทุน: เรามองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงผลกระทบจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะกลางถึงยาวตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องจากแรงหนุนทั้งภาคการผลิต การบริโภค การส่งออก การลงทุนจากภาครัฐและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงการเข้าไปร่วมคำนวณในดัชนี FTSE Emerging Markets จะหนุนให้เงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญ 

  • นอกจากนี้กำไรบริษัทจดทะเบียนโดยรวมยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และมูลค่าของตลาดหุ้นเวียดนามในปัจจุบันยังอยู่ในระดับน่าสนใจ โดยมี Forward P/E ที่ 11.62 เท่า หรือราว +0.3 SD เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งเป็นระดับราคาที่ยังไม่แพง (Source: Bloomberg as of 21 October 2025) 

  • บลจ. พรินซิเพิลแนะนำทยอยสะสมหุ้นเวียดนามในจังหวะที่ตลาดปรับตัวลงผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีโอกาสเติบโตสูง มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และเน้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามเป็นหลัก เพื่อเตรียมรับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและจากแนวโน้มการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศจากการเข้าไปร่วมคำนวณในดัชนี FTSE Emerging Market

    Image

     

    คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต