แนะนำซื้อหุ้นไทยตามกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น การเมืองมีความชัดเจน รัฐบาลเตรียมแถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

Image

 

  • ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมามีแนวโน้มเชิงบวกระยะสั้นมากขึ้น หลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ในวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา และคาดว่ารัฐบาลใหม่จะเริ่มบริหารประเทศได้อย่างเป็นทางการในเดือน ต.ค. โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ประกาศเตรียมเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างการกลับมาฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” ที่จะช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้มีระยะเวลาการบริหารงานเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น อาจต้องติดตามรายละเอียดของการจัดตั้งรัฐบาลและโครงการกระตุ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบต่อธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการเลือกตั้งใหม่ในช่วง ก.พ. - มี.ค. ปีหน้า

  • นอกเหนือจากการได้รัฐบาลใหม่ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับแรงหนุนจากนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ หนุนให้ Fund flow มีแนวโน้มไหลกลับมายังตลาดหุ้นเอเชีย ในขณะที่มูลค่าของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับถูก โดยมี Forward P/E ที่ -1SD เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี รวมถึง SET Index ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของราคาที่มากขึ้นในช่วง 1 – 2 เดือนที่ผ่านมาด้วย

  • บลจ.พรินซิเพิล จึงแนะนำซื้อกองทุนหุ้นไทยผ่านกองทุน PRINCIPAL DEF ที่ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Money & Banking Awards 2 ปีติดต่อกัน (2567-2568) หรือ กองทุน PRINCIPAL iDIV ตามกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น (Tactical Call)

Image

 

Image

 

คำเตือน: 
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL DEF มีการกระจุกตัวของการถือหน่วยการลงทุนจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ใดที่ถือหน่วยการลงทุนเกิน 1 ใน 3 เป็นสัดส่วนร้อยละ 74.15 (ณ วันที่ 31 ก.ค. 2568) โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ (www.principal.th) / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต