แนะนำซื้อหุ้นไทย การเจรจาการค้ามีท่าทีผ่อนคลายในเชิงบวก

Image
1

 

  • วันที่ 18 ต.ค. รองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิง และรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ และตกลงที่จะจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนโยบายการค้าที่เข้มงวดต่อจีนว่าไม่ยั่งยืน และจะไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะยาว พร้อมทั้งระบุว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำจีน และพร้อมจะหาข้อตกลงที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพูดคุยกันที่การประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เกาหลีใต้ปลายเดือนต.ค. นี้ โดยปัจจัยดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการผ่อนคลายเบื้องต้นของความเข้มงวดทางการค้าที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

  • นอกจากนี้ มูลค่าตลาดหุ้นไทยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดย SET Index มี Forward P/E ที่ราว -0.5SD เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี สะท้อนให้เห็นว่า SET Index ยังมี upside เหลืออยู่ และยังมีปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะข้างหน้า เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิในวันนี้เป็นวันแรก ได้รับการตอบรับที่ดี มีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จแล้วจำนวนกว่า 15 ล้านสิทธิ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ดีในช่วงที่เหลือของปี นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มขายหุ้นไทยเบาบางลง และอาจจะกลับมามีสถานะซื้อสุทธิ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถูกคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้อีก 2 ครั้ง และในปีหน้าอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% (Source: FedWatch Tool as of 20 October 2025) หนุนให้ Fund flow ไหลกลับมายังตลาดหุ้นเอเชีย

  • บลจ.พรินซิเพิล จึงแนะนำซื้อหุ้นไทย ผ่านกองทุน PRINCIPAL DEF ที่ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Money & Banking Awards 2 ปีติดต่อกัน (2567-2568) หรือ กองทุน PRINCIPAL iDIV ตามกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น (Tactical Call)

     

    Image
    3

     

    Image
    4

     

    คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL DEF มีการกระจุกตัวของการถือหน่วยการลงทุนจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ถือหน่วยการลงทุนเกิน 1 ใน 3 เป็นสัดส่วนร้อยละ 74.52 (ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ (www.principal.th) / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต