แนะนำขายหุ้นไทย แล้วลงทุนในพอร์ตการลงทุนแนะนำ หลังความเสี่ยงโดยรวมเพิ่มขึ้น
บลจ.พรินซิเพิล แนะนำนักลงทุนขายหุ้นไทยตามกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น หลังความเสี่ยงด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจโตไม่ได้ตามเป้าจากนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยลง ความเสี่ยงเรื่องผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ด้วยปัจจัยดังกล่าวเราจึงแนะนำนักลงทุนขายหุ้นไทยแล้วลงทุนตามพอร์ตการลงทุนแนะนำ จนกว่าภาพรวมการลงทุนจะดีขึ้น หรือการเจรจาการค้ากับสหรัฐมีความคืบหน้าในทิศทางที่ดี
ตลาดหุ้นไทยได้ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศการผ่อนผันเกี่ยวกับมาตรการภาษี (Reciprocal Tariff) ต่อประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตามระดับการฟื้นตัวดูเหมือนว่าจะอ่อนแอลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศไทยมีความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ต้องเผชิญ เช่น เศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังชะลอตัว โดยสัปดาห์ที่แล้ว สภาพัฒน์ได้ปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ในปีนี้สู่ 1.8% จาก 2.8% เนื่องจากภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง และผลกระทบเชิงลบจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมถึงความผันผวนจากภาคการเกษตร
นอกจากนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญก็ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดในเดือนเม.ย. มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาไทยประมาณ 3 แสนคน ปรับลดลงกว่า 50% จากเดือนม.ค. ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากมีความกังวลด้านความปลอดภัย และมีการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากประเทศอื่นสูงขึ้น
อีกทั้งความกังวลการร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 ล่าช้าเนื่องจากการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพก็เป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามเช่นกัน โดยจากปัจจัยที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้ Bloomberg Consensus ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าการเติบโตกำไรของบริษัทใน SET Index โดยเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่แค่ประมาณ 4%
คำเตือน: Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GLEADER กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรปผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL KEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเกาหลีผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต