จัดการกับเงินกู้เพื่อการศึกษาให้อยู่หมัด:ดูแล'หนี้ดี'อย่างไรให้ไม่กลายเป็นภาระ
จัดการกับเงินกู้เพื่อการศึกษาให้อยู่หมัด :ดูแล 'หนี้ดี' อย่างไรให้ไม่กลายเป็นภาระ
การบริหารจัดการเงินกู้เพื่อการศึกษาอย่างรอบคอบช่วยเพิ่มคะแนนเครดิตให้คุณได้ และยังทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บสำหรับการเกษียณและค่าใช้จ่ายอื่นๆ มากขึ้นด้วย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ตราบใดที่คุณจ่ายคืนทุกเดือนทุกงวดแบบไม่ขาดตกบกพร่อง คะแนนเครดิตของคุณก็ควรจะสูงขึ้นนั่นเอง
เงินที่กู้ยืมมาเพื่อการศึกษานั้นถือเป็น 'หนี้ดี' เพราะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต แต่การมี 'หนี้ดี' เยอะเกินไปก็คงไม่ดีสักเท่าไหร่
การจัดการเงินกู้เพื่อการศึกษานั้นไม่ยากอย่างที่คิด
เพราะคุณสามารถ
- รวมเงินกู้เพื่อการศึกษาที่มีอยู่เข้าด้วยกันแล้วจ่ายรวมเป็นก้อนเดียวทุกเดือน
- จ่ายคืนเงินกู้แบบอัตโนมัติโดยใช้วิธีตัดบัญชีธนาคารหรือหักจากเงินเดือน เท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องลืมจ่ายหรือจ่ายไม่ทันกำหนดไปได้เลย
คุ้มมั้ยที่จะเรียนวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย?
ค่าเทอมที่แพงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้คุณเริ่มไม่แน่ใจว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้นยังคงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอยู่มั้ย ทั้งสำหรับตัวคุณเองและลูก
Lord David Willets ซึ่งเป็นศาสตราจารย์รับเชิญจาก King's College London ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New Straits Times* ว่า "ขอฝากไว้ว่าการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนี่แหละคือสิ่งที่จะช่วยให้เราเติบโตก้าวหน้าในอุตสาหกรรมยุค 4.0 ได้”
เขายังบอกด้วยว่า "อย่าง Facebook ก็เป็นโปรเจ็กต์หนึ่งของ Mark Zuckerberg ตอนเรียนอยู่ Harvard ส่วน Steve Jobs ก็เรียนวิชาศิลปะการคัดลายมือ(Calligraphy) ที่ Reed College ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Apple ที่สวยงาม หรืออย่าง Sir Jony Ives ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ก็เรียนมหาวิทยาลัย Northumbria สาขาการออกแบบอุตสาหกรรม และได้ฝึกฝนที่นำมาใช้สร้างผลิตภัณฑ์ Apple อันสวยงามเช่นกัน ซึ่งความสำเร็จของบุคคลเหล่านี้ก็เกี่ยวข้องกับการที่พวกเขาได้ความรู้จากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง"
สรุปก็คือถึงแม้การศึกษาในระบบจะแพงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ก็ยังคงเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมเพื่ออนาคตของคุณ(หรือของลูก)อยู่ดี