Fund Update: กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เฮลธ์ อินโนเวชั่น (PRINCIPAL GHEALTH)

โดย คุณวิริยา โภไคศวรรย์– International Fund Manager
       คุณธเนศ เลิศเพชรพันธ์ – Investment Strategist

26 September 2023

ภาพรวมอุตสาหกรรม Health Care

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงในเดือน ส.ค. 2566 โดยดัชนี MSCI ACWI ให้ผลตอบแทนลดลง 2.96% และดัชนี MSCI World Health Care ปรับตัวลดลง 0.87% โดยในช่วงแรกเป็นการปรับตัวลงตามความกังวลที่ Fitch เตรียมปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ และตลาดก็เข้าสู่ช่วงรอคำแถลงของนาย Powell ที่การประชุม Jackson Hole ที่ส่งสัญญาณถึงอัตราเงินเฟ้อที่ถึงแม้จะมีแนวโน้มชะลอลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง เป็นการเปิดโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ยังทำด้วยความระมัดระวัง เช่นเดียวกับ ECB ที่ส่งสัญญาณในลักษณะคล้ายกัน ในส่วนของผลดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ ถึงแม้จะออกมาดีกว่าการคาดการณ์แต่ก็ส่งสัญญาณถึงความไม่ชัดเจนในอนาคต เนื่องจากงบการเงินของหลายบริษัทแสดงถึงผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินและต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น และผู้บริหารที่ให้ความเห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและความกังวลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน จะกระทบรายได้และกำไรของธุรกิจในอนาคต

โดยในเดือน ส.ค. 2566 กลุ่ม Healthcare ได้รับการพยุงโดยกลุ่ม Pharmaceuticals (+2.23%) และกลุ่ม Biotech (+0.96%) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวลงแรงได้แก่ Healthcare Equipment (-6.00%) และกลุ่ม Healthcare Provider Services (-5.43%) อย่างไรก็ดีการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม Health Care มีความน่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจและนโยบายการเงินยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากอุตสาหกรรม Health Care เป็นอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนขึ้นกับวัฏจักรเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ และมีความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาที่ต่ำ (Low Price Elasticity of Demand) เนื่องจากเป็นสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ในการดำรงค์ชีวิต โดยกองทุน AB International Health Care Portfolio เน้นลงทุนในหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่แน่นอน และเป็นกลุ่มที่มีรายได้ที่ชัดเจน ในขณะที่กองทุน Schroder International Selection Fund Healthcare Innovation เน้นลงทุนในหุ้นที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการเติบโตในระยะกลางถึงยาว

กลยุทธ์การลงทุน

สำหรับ PRINCIPAL GHEALTH ทีมจัดการลงทุนจะมีการวางกรอบน้ำหนักการลงทุนใน 2 กองทุนหลัก ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การลงทุนหรือปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในแต่ละช่วง (บริหารพอร์ตแบบ Active/Dynamic) โดยจะแบ่งเป็น 3 เหตุการณ์ (Scenario) คือ Risk-off, Neutral และ Risk-on

ghealth

 โดยทีมจัดการลงทุนมีการคงสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนใน AB International Health Care Portfolio และ Schroder International Selection Fund Healthcare Innovation อยู่ที่ 40:60 ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่มีแนวโน้มชะลอลง หลังจากที่ได้มีการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยได้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. และ ก.ย. ปี 2566 และมุมมองของนักลงทุนที่สะท้อนในมาใน FED FUND FUTURES ยังคงมุมมองว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 5.25% - 5.00% ในการประชุมเดือน พ.ย. นี้ และยังมองถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.ย. 2566)

ghealth

ผลตอบแทนของกองทุน

ในช่วงเดือน ส.ค. 2566 ดัชนี MSCI ACWI Index ปรับตัวลดลง 2.96% จากการที่ Fitch ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนการในขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ดัชนี MSCI World Healthcare Index ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 0.87% และกองทุน PRINCIPAL GHEALTH ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.63% แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในหุ้นกลุ่มการแพทย์ยังเป็นธีมการลงทุนที่นักลงทุนคงน้ำหนัก แม้ว่าจะเกิดความผันผวนหรือความไม่แน่นอนขึ้นในตลาดก็ตาม 

โดยหากคำนวณวัดผลตอบแทนตั้งแต่หลังจากที่มีการปรับกองทุนที่เลือกลงทุนใหม่ (วันที่ 13 พ.ค. 2565 จนถึงวันที่ 15 ก.ย. 2566) PRINCIPAL GHEALTH ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.74% (THB) สอดคล้องใกล้เคียงกับดัชนี MSCI World Health Care Index (USD) ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.51% และดัชนี MSCI All Country World Index (USD) ปรับขึ้นอยู่ที่ 8.28% โดยช่วงดังกล่าวค่าเงิน USD/THB อ่อนค่า 2.96%

ghealth

ผลการดำเนินงานย้อนหลังจาก Fund Fact Sheet ณ 31 ส.ค. 2566

Cio's view

ผลตอบแทนของ Sub-Index ของหุ้นกลุ่ม Health Care

ghealth

รายละเอียดกองทุน

กองทุน Principal Global Health Innovation Fund (PRINCIPAL GHEALTH) ปัจจุบันมีการลงทุนผ่าน 2 กองทุนหลัก คือ
AB International Health Care Portfolio และ Schroder International Selection Fund Healthcare Innovation โดยคาดจะช่วยสร้างโอกาสการลงทุนที่เติบโตไปกับอุตสาหกรรม Health Care ที่มีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และนวัตกรรมการแพทย์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยกองทุน PRINCIPAL GHEALTH จะลงทุนทั้งในส่วนของ Healthcare แบบดั้งเดิม (Traditional Healthcare) และ Healthcare แบบสมัยใหม่ (Healthcare innovation) ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์หรือปัจจัยความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยมหภาค (Macro Factors) เพื่อจำกัดความผันผวนของโอกาสรับผลตอบแทนในระยะสั้นและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว (Traditional Healthcare จะมีแนวโน้มปรับตัวลงน้อยกว่าในสภาวะตลาดขาลง ส่วน Healthcare Innovation

จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นดีกว่าโดยเฉพาะในช่วงตลาดขาขึ้น) โดยกองทุนเน้นกระจายการลงทุนเชิงรุกระหว่าง Traditional Health และ Health Innovation มีการปรับพอร์ตการลงทุนแบบ Dynamic ตามสภาวะตลาดที่เหมาะสม

รายละเอียดของกองทุนหลัก มีดังนี้

  1. กองทุน AB International Health Care Portfolio เน้นลงทุนในกลุ่ม Traditional Healthcare โดยมีกระบวนการลงทุนแบบ Bottom-up และ High conviction ที่เน้นลงทุนบริษัทที่มีคุณภาพสูง เติบโตอย่างมั่งคงในระยะยาว เช่น ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง (High returns on invested capital) ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งนี้กองทุนได้รับรางวัล Overall Morningstar Rating 5 ดาว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 2566)
  2. กองทุน Schroder International Selection Fund Healthcare Innovation เน้นลงทุนใน Healthcare Innovation มีการกระจายการลงทุนเชิงรุกผ่าน 5 ธีมนวัตกรรมการแพทย์  ได้แก่ 1. Advanced therapies 2. Med tech 3. Healthcare services 4. Digital healthcare และ 5. Wellbeing โดยมีกระบวนการลงทุนแบบ Bottom-up approach และลงทุนหุ้นประมาณ 50-70 บริษัท

ghealth

ข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรม ประเทศ และหุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุน Principal Global Health Innovation Fund (PRINCIPAL GHEALTH)

AB International Health Care Portfolio:  Industry, Country Allocation and Top 10 Holdings

ghealth

Schroder International Selection Fund Healthcare Innovation Portfolio:  Sector, Geographical Breakdown and Top 10 Holdings

ghealth

ghealth

อ่าน Fund Update: กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เฮลธ์ อินโนเวชั่น (PRINCIPAL GHEALTH) ที่นี่

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Healthcare ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก / กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ /กองทุนอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนในเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน/บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทและลักษณะพิเศษของกองทุน PRINCIPAL GHEALTH ในอนาคตเป็น Feeder Fund หรือกองทุนรวมที่มีการลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์และทรัพย์สิน ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศได้ หรือกลับมาเป็นกองทุน Fund of Funds  ได้โดยไม่ทำให้ระดับความเสี่ยงของการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ให้เป็นตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต