Principal Update: 13 March 2023

​Market Update

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูงในสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากการปิดกิจการของ 3 สถาบันการเงินของสหรัฐได้แก่ Silicon Valley Bank (SVB), Silvergate Capital และ Signature Bank โดยการปิดกิจการดังกล่าวเกิดจากสาเหตุหลักที่ใกล้เคียงกันคือการขาดสภาพคล่อง หลังลูกค้าแห่ถอนเงินเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน และทั้ง 3 สถาบันทางการเงินมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยี เช่น Silicon Valley Bank (SVB) มีสัดส่วนการปล่อยกู้ให้กับบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัท Start Up ในสหรัฐเป็นลูกค้าของ Silicon Valley Bank รวมถึง Silvergate Capital และ Signature Bank เป็นธนาคารที่ให้บริการแก่บริษัทที่ทำธุรกิจด้านคริปโตเคอร์เรนซีเป็นหลัก อีกทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ยังส่งผลให้ตราสารหนี้ที่ธนาคารต่างๆ ลงทุนอยู่เกิดการขาดทุนที่ที่เรียกว่า Unrealized loss และบริษัทเทคโนโลยีสามารถระดมทุนได้ยากขึ้น ผลที่ตามมาคือบริษัทเทคโนโลยี แห่ถอนเงินเป็นจำนวนที่มากขึ้น ซึ่งทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่องและจำเป็นต้องขายตราสารหนี้ที่ลงทุนอยู่ และรับรู้การขาดทุน
  • อย่างไรก็ตามจากการประชุมฉุกเฉินของ Fed, Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) และกระทรวงการคลังสหรัฐ รัฐบาลจะรับประกันเงินฝากทั้งหมดของ Silicon Valley Bank และ Signature Bank โดยลูกค้าจะสามารถถอนเงินได้ในวันที่ 13 มี.ค. 2023 นอกจากนี้ Fed ยังประกาศ Bank Term Funding Program (BTFP) ขนาด 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นโครงการที่อนุญาตให้ธนาคารสามารถนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หรือตราสาร Mortgage backed securities มาแลกเป็นสภาพคล่องได้ที่ราคาหน้าพันธบัตร เป็นเวลาสูงสูด 1 ปี (เพื่อป้องกันการขาดทุนจาก Unrealize loss)

มุมมอง

  • Silicon Valley Bank (SVB) มีขนาดงบดุลประมาณ 200 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นธนาคารขนาดใหญ่ลำดับที่ 16 ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีผลทั้งระบบธนาคาร เพราะธนาคารขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ มีสภาพคล่องสูง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Silicon Valley Bank (SVB) รวมถึง Silvergate Capital และ Signature Bank ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Silicon Valley Bank (SVB) ได้สร้างความกังวลต่อนักลงทุน ในด้านที่ว่าธนาคารขนาดกลางหรือเล็กอื่นๆ โดยเฉพาะที่มีการปล่อยกู้ให้กลุ่มธุรกิจ startup หรือเทคโนโลยี อาจเจอปัญหาเดียวกันตามมาต่อเนื่อง (ขึ้นอยู่กับโครงสร้างการลงทุน และธุรกิจของธนาคารนั้นๆ ด้วย) และทำให้บริษัท/ผู้คนแห่ไปถอนเงินฝากออกจากธนาคารเหล่านี้และมีผลต่อสภาพคล่องของระบบได้ อย่างไรก็ดี ทางการของสหรัฐฯ มีแผนที่จะเข้าช่วยเหลือทั้งในส่วนผู้ฝากเงิน (เกินส่วนที่คุ้มครองเงินฝาก) และลูกค้าของธนาคารที่อาจเจอปัญหาด้านสภาพคล่องของธุรกิจ
  • โดยประเด็นความกังวลที่เกิดขึ้นนั้น ตลาดบางส่วนมีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลทำให้เฟดมีการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อแต่ละธนาคารอย่างแตกต่างกัน เราแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูประเด็นข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเดือน ก.พ. 2023 ที่จะประกาศในคืนวันอังคาร ซึ่งตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเทียบกับเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย โดยเราคาดว่าหากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยจะเป็นอีกแรงหนุนต่อการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นทั่วโลก
  • เบื้องต้นมีบางกองทุนของ Principal ที่กองทุนหลักมีสัดส่วนของสถาบันการเงินดังกล่าว แต่น้ำหนักเมื่อเทียบกับพอร์ตทั้งหมดมีสัดส่วนที่ต่ำมาก (ตามรายละเอียดด้านล่าง) และปัจจัยลบส่วนใหญ่ก็ได้รับรู้ในราคาหุ้นไปแล้ว เราจึงมองว่านักลงทุนสามารถถือครองกองทุนดังกล่าวต่อไปได้

Cio's view

Source: Bloomberg, Master Fund

อ่าน Principal Update: 13 March 2023 ที่นี่

 

คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทําความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุน PRINCIPAL GPS, PRINCIPAL GCLOUD, PRINCIPAL GBRAND, PRINCIPAL GREITS, PRINCIPAL GHEALTH, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GEF, PRINCIPAL GMA, PRINCIPAL USEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการ ลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุน PRINCIPAL GOPP ลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการ ลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GCLOUD, PRINCIPAL GBRAND มีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology Sector) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และ ความล้าสมัยของสินค้า ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก และอาจมีความเสี่ยงและความผัน ผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายหลายอุตสาหกรรม / PRINCIPAL GBRAND มีการลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็น (Consumer Staples Sector) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า การเปลี่ยนแปลงของความ ต้องการของผู้บริโภค หรือกฎระเบียบของภาครัฐ / PRINCIPAL GHEALTH ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Healthcare ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก / PRINCIPAL AARMF ผู้ถือหน่วยลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วยหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีกองทุนมีนโยบายลงทุน ในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนตํ่ากว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลย พินิจของผู้จัดการกองทุน/ผลการดําเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต