กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า ทริกเกอร์ 6M1 (PRINCIPAL CHTG6M1) เล็งหุ้นแดนมังกร เพื่อสร้างโอกาสพิชิตเป้าหมายในตลาดหุ้นจีนที่กำลังทะยานแรง

Trigger Fund

กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า ทริกเกอร์ 6M1 (PRINCIPAL CHTG6M1)

เล็งหุ้นแดนมังกร เพื่อสร้างโอกาสพิชิตเป้าหมายในตลาดหุ้นจีนที่กำลังทะยานแรง หลังค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ด้วยนโยบายทั้งการเงินและการคลังที่ช่วยดันให้เศรษฐกิจจีนเดินหน้าต่อ

เมื่อเห็นจังหวะที่หุ้นจีนกำลังเนื้อหอมขนาดนี้ บลจ. พรินซิเพิล จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า ทริกเกอร์ 6M1 (PRINCIPAL CHTG6M1) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่มีคุณภาพและมีแนวโน้มเติบโตสูง เพื่อพิชิตเป้าหมายสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน

โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 23 – 31 สิงหาคมนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถซื้อได้ที่ธนาคารกรุงศรี, พันธมิตรทางธุรกิจ หรือซื้อผ่านแอป Principal TH

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ คลิก

ดาวน์โหลดแอป Principal TH และซื้อกองทุน คลิก 

ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ คลิก หรือโทร 02-686-9500

เศรษฐกิจจีน

จับจังหวะทองของการลงทุน ทำไมหุ้นจีนถึงน่าสนใจในเวลานี้?

แม้จะเป็นประเทศที่เจอผลกระทบจากโรคระบาดก่อนประเทศอื่นๆ แถมยังเจอหลายระลอกในรอบสองปีที่ผ่านมา แต่จีนก็ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาด และเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวกลับมาให้ได้เร็วที่สุด จนทำให้จีนกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

โดยปัจจัยที่ยืนยันว่าทำไมหุ้นจีนถึงน่าสนใจสุดๆ ในเวลานี้ ก็เช่นการที่หลายประเทศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ แต่ธนาคารกลางจีนยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย สะท้อนถึงโอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดีกว่า

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนมี Valuation ที่น่าสนใจ โดย MSCI China Index ซื้อขายที่ระดับ -0.5 SD หรือ 13x จึงน่าดึงดูดต่อการเข้าไปช้อนซื้อเพื่อหวังผลตอบแทนอย่างมากในเวลานี้

รวมไปถึงการที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดถึง -54% เป็นการปรับตัวลดลงที่รุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดขาลงในอดีตที่ -41% ขณะที่ forward P/E ปรับตัวลงมาที่ระดับ 8.6x ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย forward P/E ที่จุดต่ำสุดของตลาดขาลงในอดีตที่ 8.3x จึงเชื่อว่า ตลาดหุ้นจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

มาตราการเศรษฐกิจจีน

เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้งที่ 5.5% ในช่วงปลายปีนี้ จีนจึงออกมาตรการใหม่ถึง 33 มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ฟื้นตัวกลับมาหลังช่วงโควิด โดยมีตัวอย่างมาตรการดังนี้

มาตรการผ่อนปรนทางภาษีและนโยบายการลดค่าธรรมเนียม เช่น
-ขยายเวลาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
-เลื่อนจ่ายประกันสังคม เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับกลุ่มร้านอาหาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว การบิน การขนส่ง
-เลื่อนชำระหนี้ (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ จนถึงสิ้นปี 2022 รวมถึงเลื่อนจ่ายประกันสังคม เลื่อนการฝากหรือชำระคืนหนี้บ้าน เฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบ

มาตรการเพิ่มการสนับสนุนธุรกิจรายเล็ก เช่น
-เพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยวงเงินจัดสรร 449.4 ล้านเหรียญฯ
-เลื่อนการชำระค่าน้ำ ไฟ รวมถึงก๊าซหุงต้ม
-ลดหรืองดค่าเช่าอสังหาฯ ที่รัฐเป็นเจ้าของ รวมถึงภาษีอสังหาฯและภาษีการใช้ที่ดิน ไปจนถึงสิ้นปี 2022

มาตรการสร้างเสถียรภาพการลงทุน เช่น
-สนับสนุนบริษัทจีนให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
-กระตุ้นการใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานผ่านการออกพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ราวๆ 547 พันล้านเหรียญฯ
-มาตรการส่งเสริมเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนโครงการการลงทุนจากต่างประเทศ

มาตรการสนับสนุนรายอุตสาหกรรม เช่น
-กระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมการเดินอากาศ และอุตสาหกรรมการขนส่ง

มาตรการอื่นๆ เช่น
-เพิ่มการจ้างงาน โดยเน้นสนับสนุนบริษัทที่จ้างเด็กจบใหม่ เพื่อลดอัตราการว่างงาน
-สนับสนุนการสร้างพลังงานใหม่ๆ

ลงทุน 3 ธีมหลัก

PRINCIPAL CHTG6M1 เน้นลงทุนในหุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่มีคุณภาพและเติบโตสูง เพื่อพิชิตเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน

โดยลงทุนใน 3 ธีมหลัก คือ

- Clean Energy: จีนตั้งเป้าจะติดตั้งพลังงานให้มากกว่าปีที่แล้ว 25% รวมถึงสนับสนุนรถยนต์ EV ขนาดเล็กมากกว่าเดิม 40% ซึ่งในเดือนพฤษภาคมปีนี้ จีนก็มียอดขายและยอดผลิตรถ EV โตเกิน 100% ไปแล้ว

- Digital Economy: โดยเฉพาะภาคธุรกิจ E-Commerce จีนมีอัตรายอดขายออนไลน์เติบโต 7% และยังมีโอกาสโตขึ้นเรื่อยๆ ใอนาคต (Double Digit)

- Healthcare: ในช่วงเวลาที่โลกก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society ที่มีคนต้องการความช่วยเหลือด้าน Healthcare มากขึ้นเรื่อยๆ จีนก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอุตสาหกรรมสายนี้โตแรงที่สุดในโลก ต่อให้มี market size อันดับ 2 แต่ช่วง 5-10 ปีคือมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นมากๆ

พอร์ตการลงทุน trigger fund

ตัวอย่างพอร์ตการลงทุน โดยที่ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 – 100 เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมต่อสภาวะตลาดการลงทุน

พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดการลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต

ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน

ตัวอย่างหุ้นที่กองทุน PRINCIPAL CHTG6M1 ลงทุน เช่น

- Tencent: บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนขนาดใหญ่ ให้บริการมูลค่าเพิ่ม (VAS) และบริการโฆษณาออนไลน์ในจีนและต่างประเทศ บริษัทดำเนินการผ่าน VAS, การโฆษณาออนไลน์, FinTech, Business Services และอื่นๆ

- Alibaba Group: บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและมาร์เก็ตติ้งผ่านร้านค้า แบรนด์ ค้าปลีก และธุรกิจอื่นๆ โดยมีส่วนร่วมกับผู้ซื้อและผู้ขายในจีนและต่างประเทศ ดำเนินการอยู่ 7 ส่วน คือ China Commerce, International Commerce, Local Consumer Services, Cainiao, Cloud, Digital Media and Entertainment, Innovation Initiatives และอื่นๆ

- Meituan: บริษัทผู้ดำเนินการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สำหรับบริการจัดส่งอาหารให้แก่ร้านค้า โรงแรมหรือภาคการท่องเที่ยว และอื่นๆ

- BYD: บริษัท บีวายดี จำกัด ร่วมกับบริษัทในเครือ ดำเนินการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในจีนและต่างประเทศ โดยบริษัทดำเนินการ 3 ส่วนหลัก คือ แบตเตอรี่แบบชาร์จได้และผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ส่วนประกอบโทรศัพท์มือถือ บริการประกอบและผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงรถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องและผลิตภัณฑ์อื่นๆ

trigger china

กำหนดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน โดยกองทุน PRINCIPAL CHTG6M1 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังนี้

ครั้งที่ 1: เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.30 บาท บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราร้อยละ 3 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในโครงการ

ครั้งที่ 2: เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.65 บาท การกำหนดเป้าหมายมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.65 บาทต่อหน่วย เป็นเพียงเงื่อนไขในการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน

อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับจากการเลิกกองทุนเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไข
การเลิกกองทุน เมื่อคำนวณเป็นมูลค่าต่อหน่วยลงทุน อาจมีมูลค่าต่ำกว่า 10.65 บาท เนื่องจากการหักค่าใช้จ่ายการกันสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องของกองทุน

กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า ทริกเกอร์ 6M1 (PRINCIPAL CHTG6M1) สร้างโอกาสพิชิต เป้าหมายในตลาดหุ้นจีนที่มีคุณภาพ และมีแนวโน้มเติบโตสูง

เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 23 – 31 สิงหาคม 2565
ผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถซื้อได้ที่ธนาคารกรุงศรี, พันธมิตรทางธุรกิจ หรือซื้อผ่านแอป Principal TH

ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงเวลา 6 เดือนแรก ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก / การกำหนดเป้าหมายมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.65 บาทต่อหน่วย เป็นเพียงเงื่อนไขในการเลิกกองทุนหรือการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนออกจากกองทุนนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทุน จำนวนเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับจากการเลิกกองทุน เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน เนื่องจากการหักค่าใช้จ่ายการกักสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องของกองทุน / กองทุนลงทุนกระจุกตัวในจีน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอันตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต