กระจายการลงทุนทั่วโลกและลงทุนในแบรนด์ที่แข็งแกร่งไปกับกองทุน PRINCIPAL GBRAND
PRINCIPAL GBRAND เป็นหนึ่งในกองทุนประเภท Quality Growth และมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ซึ่งบลจ. พรินซิเพิลเองแนะนำนักลงทุนมาตั้งแต่ช่วงต้นปี
.
เนื่องจากกองทุนมีการกระจายการลงทุนที่ดีในหุ้นคุณภาพ มีแบรนด์สินค้าแข็งแกร่ง มีฐานผู้ใช้จำนวนมาก สามารถตั้งราคาขายได้และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมถึงมีกระแสเงินสด และมีการเติบโตของรายได้อย่างสม่ำเสมอ และยังมีโอกาสการส่งผ่านราคาต้นทุนวัตถุดิบสินค้าที่ปรับตัวขึ้นจากเงินเฟ้อไปยังผู้บริโภคได้
จากเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้บริษัทที่กองทุนมุ่งเน้นลงทุนยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูง เช่น ภาวะของเงินเฟ้อที่ยังปรับตัวสูงขึ้น หรือภาวะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ รวมถึงอีกหลายเหตุผลประกอบ
มาดูกันดีกว่าว่าทำไมกองทุน PRINCIPAL GBRAND ถึงน่าสนใจที่จะมีไว้ติดพอร์ตเพื่อช่วยลดความผันผวน ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูงปกคลุมตลาดอย่างในปัจจุบัน
ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/GBRAND-A
ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก
3 จุดเด่น ทำไมกองทุน PRINCIPAL GBRAND ถึงน่าสนใจ
1.เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดี มีแบรนด์สินค้าแข็งแกร่งระดับโลก
บริษัทที่มีแบรนด์สินค้าแข็งแกร่งมีแนวโน้มสร้างกระแสเงินสด และรายได้อย่างสม่ำเสมอในทุกช่วงภาวะของเศรษฐกิจ เนื่องจากสินค้าของบริษัทดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้ในสายตาของผู้บริโภค และยากที่จะถูกเลียนแบบจากบริษัทคู่แข่ง
2.จำกัด Downside ของผลตอบแทนได้ดี ในภาวะตลาดที่มีความผันผวน
จากสถิติผลตอบแทนในอดีต กองทุนหลักมักจะจำกัด Downside ได้ดีในภาวะตลาดขาลง หรือในช่วงเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากบริษัทที่มุ่งเน้นลงทุนเป็นลักษณะ Defensive หรือหุ้นในกลุ่มที่มีค่าความผันผวนต่ำ และสินค้ายังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เช่นบริษัท Microsoft ที่ออฟฟิศทั่วโลกต่างก็ยังต้องใช้โปรแกรม Microsoft Office 365 ในการทำงาน แม้เศรษฐกิจในช่วงนั้นจะไม่ดีก็ตาม
3.บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน
กองทุนหลักบริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนจาก Morgan Stanley ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี และมีวิธีการลงทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อคัดหุ้นที่มีคุณภาพที่ดี มีอัตราการเติบโตสูง และมีมูลค่าที่สมเหตุสมผล เพียงแค่ประมาณ 20 – 40 บริษัทเท่านั้นจากทั่วโลก โดยผลงานที่ดีของกองทุนสะท้อนจากการได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar Ratings as of 31 May 2022
กองทุนสามารถจำกัด Downside ของผลตอบแทน เมื่อเกิดภาวะตลาดขาลงได้ดี
จากในอดีต เมื่อเกิดภาวะตลาดขาลง หรือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กองทุนมีแนวโน้มที่จะมีผลงานดีกว่าดัชนีเทียบเคียง (MSCI World Net Index) เนื่องจากกองทุนมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีโดยลงทุนในบริษัททั่วโลก และเน้นลงทุนเฉพาะบริษัทคุณภาพดี มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งระดับโลก จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงต่ำ
สัดส่วนการลงทุน - กองทุนมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีเนื่องจากลงทุนในหลากหลายประเภททั่วโลก เช่น สหรัฐฯ 75% สหราชอาณาจักร 10% ฝรั่งเศส 5% และลงทุนในหลากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเทคโนโลยี (IT) 33% กลุ่มสินค้าจำเป็น 27% และ กลุ่มการแพทย์ 23% (Source: Morgan Stanley as of 31 May 2022)
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
• Microsoft Corp – บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ผู้สร้างโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Microsoft Windows และ Microsoft Office ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท Azure ที่ประกอบธุรกิจ Cloud และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรม Cloud เป็นอันดับ 2 ของโลก
• Reckitt Benckiser Plc – บริษัทข้ามชาติสัญชาติอังกฤษที่ก่อตั้งมากว่า 200 ปี ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และเป็นเจ้าของแบรนด์ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Dove, Dettol, Strepsils หรือ Durex
เริ่มต้นลงทุนในกองทุน PRINCIPAL GBRAND จาก บลจ.พรินซิเพิล ที่ 1,000 บาท
ติดต่อสอบถามได้ที่ CIMB Thai และพันธมิตรทางธุรกิจ หรือลงทุนผ่านแอป Principal TH ได้แล้ววันนี้
.
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9500
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน /กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนหลักมีการลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น (Consumer Staples Sector) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการปลี่ยนแปลง ของราคาสินค้า การเปลี่ยนแปลงของความต้องการของผู้บริโภค หรือกฎระเบียบของภาครัฐ และ มีการกระจุกตัวในกลุ่มเทคโนโลยี (Information Technology Sector) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และความล้าสมัยของสินค้า ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงและ ความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายหลายอุตสาหกรรม / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
